“บุฟเฟ่ต์” คุณภาพดี อร่อย คุ้มค่า ที่ ห้องอาหาร “Savio”

“บุฟเฟ่ต์” คุณภาพดี อร่อย คุ้มค่า ที่ ห้องอาหาร “Savio”

“บุฟเฟ่ต์” คุณภาพดี อร่อย คุ้มค่า ที่ ห้องอาหาร “Savio” โรงแรม Chatrium Grand Bangkok เปิดบริการทั้งมื้อกลางวัน และมื้อค่ำ หมูหวานชวนชิม ขอกดไลค์ให้กับหลายเมนู อาทิ ฟัวกราส์ หอยนางรม “ซาชิมิ” ซีฟู้ดออนไอซ์ Live Chef Station และ Cold Cut Station
บุฟเฟ่ต์ ที่ ห้องอาหาร Savio โรงแรม Chatrium Grand Bangkok ชื่อ ห้องอาหาร Savio มาจาก “สาวิตรี” สาวิตรี รมยะรูป

เช่นเดียวกับโรงแรม Chatrium ที่มาจาก “ชาตรี” หรือ ชาตรี โสภณพนิช ถือว่าเป็นแหล่งโอเอซีสที่เหล่าบรรดานักชิมน่าจะชื่นชอบ

วัฒนธรรมการกินอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ มีต้นกำเนิดจากประเทศสวีเดน พวกเขาถูกเรียกว่า โจรสลัดแห่งยุโรปเหนือ

เพราะสมัยนั้นพวกเขาดำรงชีพด้วยการซื้อขายสินค้า ปล้นสะดมเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเดินเรือ พอขึ้นฝั่งทีก็จะสั่งอาหารที่อยากกิน

มาวางจนเต็มโต๊ะ ใครใคร่กินอะไรก็เลือกได้ตามใจชอบ ฝรั่งเศสได้ไอเดียนี้มาใช้จนโด่งดังเป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 18

จนทุกวันนี้วิถีการกินอาหารแบบไม่อั้งที่เรียกว่า Buffet หรือ “บุฟเฟต์” ได้รับความนิยมไปทั่วโลก วันนี้ “เชฟเปี๊ยก” พนิดา อุทัยวศิน Executive Sous Chef เล่าว่า

คอนเซ็ปต์ของอาหารจะเน้นความหลากหลายของเอเชีย มีทั้งอาหารไทย อาหารอินเดีย และ Southeast Asia รวมทั้งอาหารสไตล์ฟิวชั่น

บุฟเฟ่ต์ ที่ห้องอาหาร Savio โรงแรม Chatrium Grand Bangkok นั้น “เชฟเปี๊ยก” พนิดา อุทัยวศิน Executive Sous Chef เล่าว่า

อาหาร ที่นี่เน้นวัตถุดิบไทย ยกเว้นแซลมอน แกะ ตับห่าน หรือฟัวกราส์ ฯลฯ ที่ต้องนำเข้า

“วัตถุดิบถ้าเป็นเนื้อเราจะนำเข้าจากต่างประเทศ แล้วเอามารวมกับสมุนไพรต่างๆของบ้านเรา ถ้าเป็นอาหารไทย เราจะเน้นรสชาติแบบไทยจริงๆ

คุณสาวิตรี บอกว่าอาหารไทยต้องเป็นไทยแท้ๆนะ แกงต้องรสจัด อาหารจานไหนต้องเผ็ดก็ตามนั้นไม่ลดเผ็ดลงเพื่อให้ฝรั่งทานได้

ไฮไลท์ที่นี่เราจะมีแกงปูใบชะพลู มัสมั่นเนื้อ เราจะใช้เนื้อแก้มวัวตุ๋น พริกแกงของเราจะเป็นสไตล์พริกแกงใต้ จะเผ็ดร้อนพริกไทยมากกว่าพริกแกงภาคกลาง”

บุฟเฟ่ต์ มี อาหาร หลากหลายเชื้อชาติ อย่าง “อาหารอินเดีย” รสชาติถูกใจ หมูหวานชวนชิม ชอบกุ้งย่างสไตล์อินเดีย

ทว่ามีอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ที่มากกว่านั้น ยกตัวอย่างเช่น Chicken Tikka Masala , Tawa Fish, Lal Mirch Ka Paneer Tikka,

Lamb Rogan Josh, Briyani Rice และ Jeera Rice ใครเป็นแฟนคลับอาหารจากแดนภารตะ รับรองไม่ผิดหวังเพราะเชฟเป็นชาวอินเดียแท้ๆ

“เชฟเปี๊ยก” พนิดา อุทัยวศิน Executive Sous Chef เล่าว่า เป็นอาหารอินเดียที่มีเครื่องเทศพอดีไม่รุนแรงมากเกินไปเสียดายที่วันนี้เชฟใหญ่ประจำโรงแรมไม่อยู่

เขาชื่อ Darius Seitfudem Accompished Executive Chef เป็นชาวเยอรมัน มีประสบการณ์ในการทำงานมา 18 ปี

ผ่านงานมาหลายแห่งทั้งในยุโรป ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง South East Asia โรงแรม 5 ดาว และห้องอาหารที่ได้การันตีรางวัล Michelin Star

ซึ่งเชฟเปี๊ยกเล่าว่า “เชฟเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงอายุประมาณ 34 -35 ปี เขามักจะเลือกใช้วัตถุดิบดี ทุกอย่างถ้าไม่ดีไม่ใช้ วัตถุดิบเดียวกันถ้าโรงแรมอื่นใช้เกรดเท่านี้

เขาต้องหาวัตถุดิบที่เกรดสูงกว่ามาใช้ อยากให้มาทานกัน เพราะคุ้มจริงๆ เราเปิดบุฟเฟ่ต์ตรงนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการโปรโมทโรงแรม ให้คนมาทานด้วยราคาเท่านี้

อ่านข่าวอาหารที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : แอฟลาทอกซินในขนมจันอับ